กรดวิตามินเอ (Retinoic Acid) - Skin Innovations

กรดวิตามินเอ (Retinoic Acid)

ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)
September 2, 2016
ทรานซามิน (Tranexamic Acid)
September 2, 2016

กรดวิตามินเอ (Retinoic Acid)

กรดวิตามินเอ ไม่ใช่วิตามินเอแต่เป็นส่วนที่ถูกสกัดมาจากวิตามินเอ โดยหลังจากที่ผ่านกระบวนการสกัดแล้วได้มาเป็นกรดวิตามินเอแล้วก็จะมีหน้าที่และโครงสร้างเปลี่ยนไปจากวิตามินเอ ซึ่งในทางการแพทย์กรดวิตามินเอถูกนำมาใช้ประโยชน์การรักษาโรคผิวหนัง นอกจากนี้แล้วประโยชน์กรดวิตามินเอ ยังมีประโยชน์ดังต่อไปนี้

  • ช่วยในการกระตุ้นทำให้เกิดเซลล์ผิวใหม่
  • ช่วยให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก พร้อมกับกระตุ้นทำให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ของผิวชั้นนอก
  • ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเส้นใยคอลลาเจน และช่วยลดไขมันในส่วนของบริเวณผิวหนัง

ด้วยสรรพคุณต่างๆ เหล่านี้ ทำให้กรดวิตามินเอถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง เพื่อช่วยในการลดริ้วรอย รอยแผล และเพื่อเป็นการช่วยในการกระตุ้นให้คอลลาเจนอีลาสตินใต้ผิวหนังของเรา แต่อย่างไรก็ดีนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีการนำกรดวิตามินเอไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง อย่างเช่น ครีมหน้าใส ครีมผิวขาว อาหารเสริมผิวขาว ได้โดยตรงเลยทีเดียว เนื่องจากกรดวิตามินเอมีความเข้มข้นสูง ดังนั้นในการนำไปใช้ในแต่ละครั้งจึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดและเข้มงวด

เพราะไม่ว่าจะเป็นการใช้กรดวิตามินเอหรือสารอะไรก็ตาม การใช้สารแต่ละอย่างนั้นจะต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากจนเกินไปและไม่น้อยจนเกินไป ซึ่งก็เหมือนกับการใช้กรดวิตามินเอเพื่อใช้ในการรักษาโรคผิวหนังหรือหลุมสิว ก็จะต้องในปริมาณที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของเราให้มากที่สุด เนื่องจากแต่ละคนนั้นจะมีลักษณะของผิวหน้าแตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลทำให้ผิวแห้งหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นๆ ได้ ในบางกรณีอาจทำให้เกิดผื่นแดงคล้ายอาการแพ้ หรือเกิดอาการแพ้ได้ หากใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมหรือนำมาใช้ผิดวิธี  เพราะฉะนั้นแล้วหากจำเป็นที่จะต้องใช้จริงๆ ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อที่จะได้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับตัวเองเมื่อใช้กรดวิตามินเอ